เห็ดหลินจือ ราชาสมุนไพรจีน กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
เห็ดหลินจือ ราชาสมุนไพรที่ต้องลอง! กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ถ้าใครเป็นสายสมุนไพรน่าจะรู้จัก “เห็ดหลินจือ” กันมาบ้างแล้ว แต่รู้ไหมว่าเจ้าเห็ดนี้ไม่ได้มีดีแค่ชื่อเสียงอย่างเดียว เพราะยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพหลายด้าน บทความนี้จะมาแชร์ว่าเห็ดหลินจือมีดีอะไรบ้าง และต้องกินยังไงถึงจะได้ประโยชน์แบบเต็มที่
คุณสมบัติพิเศษของเห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือมีสารสำคัญอย่าง ไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoid) และ พอลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ, ต้านการอักเสบ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนั้น ยังมีสาร เจอร์เมเนียม (Germanium) และ นิวคลีโอไทด์ (Nucleotide) ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และป้องกันไวรัสอีกด้วย
- ไตรเทอร์พีนอยด์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
- พอลีแซ็กคาไรด์ ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- เจอร์เมเนียม ช่วยกำจัดสารพิษและต้านสารเคมีในร่างกาย
- นิวคลีโอไทด์ ช่วยลดคอเลสเตอรอลและเสริมการไหลเวียนของเลือด
ประโยชน์ของเห็ดหลินจือ
เสริมภูมิคุ้มกัน เห็ดหลินจือทำให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมรับมือกับเชื้อโรคต่าง ๆ
ลดโอกาสมะเร็ง มีการวิจัยพบว่าเห็ดหลินจือสามารถช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
บำรุงหัวใจ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น หลอดเลือดสะอาด และหัวใจทำงานอย่างเต็มที่
ลดไขมันในร่างกาย สารไตรเทอร์พีนอยด์ช่วยป้องกันไขมันสะสมและลดคอเลสเตอรอล
วิธีการกินเห็ดหลินจือให้ได้ประโยชน์
- ต้มดื่ม: นำเห็ดแห้งฝานบาง ๆ แล้วต้มดื่มเหมือนชา อาจผสมน้ำผึ้งเล็กน้อยเพื่อลดความขม
- บดเป็นผงใส่แคปซูล: สะดวกกินง่าย แต่ควรซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้ เพราะอาจมีสารปนเปื้อน
- สกัดเป็นเม็ด: มีการคัดสรรสารอาหารแบบเน้น ๆ ดูดซึมง่าย เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลาต้ม
ปริมาณที่แนะนำ
ควรรับประทาน 4-15 กรัม ต่อวัน หากเป็นการต้มดื่ม กินตอนท้องว่างจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดี หรือถ้าเป็นแบบเม็ดและแคปซูล ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้ผลิต
เห็ดหลินจือจัดว่าเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าและมีประโยชน์จริง ๆ สำหรับใครที่อยากดูแลสุขภาพให้แข็งแรงก็ลองทานตามวิธีที่ชอบกันได้เลยครับ!